Saturday, June 29, 2013

Stein am Rhein



วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว  เราจะนั่งรถไฟย้อนผ่าน Zurich  ขึ้นเหนือไปเยือนเมืองเล็กๆ  Stein am Rhein  ที่เต็มไปด้วยเสนห์ และแสนจะ Classic

แล้วล่องเรือตามแม่น้ำ Rhein
 
ไปยังเมือง Schaffhausen  ดูป้อมปราการ  Munot       
 
แล้วต่อรถไปที่น้ำตก Rhein Fall  ที่ตื่นตาตื่นใจกัน



เมือคืนเราจัดกระเป๋าสำหรับเสื้อผ้าพอสำหรับพรุ่งนี้ใส่ใว้ในเป้  ส่วนกระเป๋าใบใหญ่เราลากไปสถานีรถไฟเลยเช้านี้เพื่อส่งไปรอที่เมือง  Interlaken   พรุ่งนี้จะได้เที่ยวได้อย่างสบายทั้งวัน แล้วตอนเย็นค่อยแวะเอากระเป๋าไป  Check in  เข้าที่พัก  อุสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของ  Swiss  ทำให้  Swiss  มีระบบจัดการสนับสนุนการท่องเที่ยวได้ดีมาก  เราสามารถฝากกระเป๋าแล้วไปรับไปสถานีปลายทางในตอนเย็นวันเดียวกันราคาจะสูงหน่อย ถ้าไปรับในเย็นวันถัดไปจะถูกลง  .... พร้อมแล้วไปขึ้นรถกันเลย

สภาพรถไฟที่  Swiss  ต้องบอกว่า  Grade A   จิงๆ
 
ถึงแล้วเร็วอะเปล่า .... เห็นสะพานเล็กๆในแผนที่บนป้ายอะเปล่า  เดี๋ยวเราต้องเดินข้ามเข้าไปในเมือง  Stein am Rhein



มาถึงแค่สะพานก็รู้สึกได้ถึง ความร่มเย็น ความงาม ความสงบ และ ความ   Classic  ของเมืองนี้ อาจเพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ทำให้มีนักท่องเที่ยวไม่มาก...   :)
 
  


 
ข้ามสะพานมาก็เจอบ้าน  Style Swiss   ที่เล่นลวดลาย  มีถนนเล็กๆเลนเดียวรอสัญญานไฟผลัดกันวิ่ง  ถนนคงพอสำหรับสมัยก่อนที่มีแต่คนเดินหรือรถม้า   ถ้าอยู่บ้านเราคงโดนเวนคืนเอาไปขยายถนนแล้วแน่ๆ ...  :)
 
 
 
 
แค่บ้านตรงปลายถนนด้านซ้ายก็อึ้งแล้ว ..... นอกจากตัดลายแล้วยังมี  Paint  รูปอีก .... :)
 
พอเลี้ยวซ้ายเข้ามา .... โอแม่เจ้า ... ทุกบ้าน  Paint  แบบนี้ทั้งเมืองเลยเหรอ .... :)    ซอกมุมด้านซ้ายคือทางที่เราข้ามสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายเดินเข้ามา

 
เริ่มจากต้นถนน
 


 

 
มาบริเวณกลางๆ

สุดถนนแล้ว.....  Stein am Rhein  เป็นแค่เมืองเล็กๆ เดินไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็หมด แต่เราก็อยู่หลายชั่วโมง .... :) 


กลับมาเริ่มที่ต้นถนน ... นี่เป็นตึกแรกเด่นเป็นสง่าอยู่หัวถนน ตอนที่ข้ามสะพานมาเราจะเห็นด้านข้างของตึกนี้
 
ไล่จากบนลงล่าง 

 
 
ภาพวาดที่ผนังตึก .... เมืองนี้อดีตคงจะเป็นที่รวมตัวของเหล่า   Artist  แห๋งๆ

ดอกไม้ประดับหน้าต่าง เอกลักษณ์ของ  Swiss  แล้วต้องมีมุขยื่นออกมาแบบนี้
 
เจ้านายผมว่านอนสอนง่ายนะ บอกถ้ายืนบนเก้าอี้จะถ่ายสวยกว่า พูดยังไม่จบ  โดดขึ้นไปโพสท่าบนเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว .... :)
  


ทางด้านซ้าย บ้านนี้สูงเด่น สีสรร ก็โดดออกมา สะดุดตามากกว่าบ้านหลังอื่นๆ 

 

หลังคาก็ยังต้องสวย
 
ไม่รู้ มังกร หรือ มังกือ
 
 



 


 
สมัยก่อนคงแข่งมุขบ้านใครสวยกว่ากัน ... :)




 



ทุกเมือง มีบ่อน้ำสวยงามไม่ซ้ำกันเลย .... :)
 
 ที่ยอดส่วนใหญ่จะเห็นเป็นรูปปั่นของ อัศวิน หรือ นักรบ

เจอบ่อนน้ำเป็นไม่ได้  ... เจ้านายผมคงหิวน้ำ ....  :)
 
น้ำใสแจ๋วเลย .... :)
 
มีสนิมอะ .....  :( 
   
ร้าน Crepe  ...   Le p'tite Creperie Cafe' & Bazar  ...   ยอดนิยมของคนไทย  มาแล้วต้องแวะร้านนี้ ... เจ้าของไม่เคยไปเมืองไทย ตรูดังได้ไงไม่รู้ .... คงเป็นเพราะอัธยาสัยต้อนรับลูกค้าดีมาก
   
 
 
 
 
บ้านสุดท้ายปลายถนน  เลี้ยวซ้ายจะไปท่าเรือ
 
ถนนไปท่าเรือ 
 
บ้านนี้  Show  มุขไหนเนี้ยไม่เข้ากับบ้านอื่นเลย น่าจะเกิดที่หลังบ้านอื่นหลายร้อยปี ....  แต่ก็น่ารักดี ..... :)
 
 
  
อย่าเขาใจผิดไม่ใช่นางงามถือป้ายนะ ...... :)
เดินผ่านถนนในเทพนิยายที่สองข้างทางมีแต่บ้าน  Paint  ด้วยลวดลายที่แสนจะ   Classic  และสวยงาม   สุดปลายถนนเลี้ยวซ้ายก็ถึงท่าเรือที่เราจะล่องแม่น้ำ  Rhien  ไปเมือง Schaffhausen    แม่น้ำ  Rhien   ไม่แน่ใจว่ายาวที่สุดในยุโรปหรือเปล่า ไหลผ่าน  Swiss, Liechtenstien, Austria, Germany, France และ Netherland
 
 
 
ไปเดินรอบๆท่าเรือ 
 
 
ท่าเรือ 
 
มีเจ้าเป็ดน้อยมานอนอาบแดดอยู่
 
 
 
 
 











เราไปถึงท่าเรือก็เกือบเที่ยงเรือออกไปแล้วตอน 11:30  เลยต้องรอรอบ 13:30  เสียเวลาไปตั้ง ชั่วโมงครึ่ง ตอนวางแผนหาเวลาตารางเรือออกที่นี่ไม่ได้ ต้องมาลุ้นเอา .... ( 


 
นายท่าเดินมาหมุนเข็มบอกเวลาเรือเที่ยวต่อไป 13:30  จ้า
 
ระหว่างรอ ... เจ้านายผมเลี้ยงง่าย ... มี   iPad   แล้วไม่งอแง ... :)
 
 
ระหว่างนั่งรอเรืออยากเดินขึ้นไปแต่เจ้านายคงไม่เล่นด้วยแน่ๆ .... :(
 
 
เรือมาตามเวลาเป๊ะ
 
เลือกกันตามสบายชั้นล่าง หรือ ขึ้นมาดาดฟ้าเรือ
 
เรือออกจากท่าแล้ว ... สะพานที่เราข้ามเข้าเมืองเมื่อตอนเช้า
 
Bye Bye ..... Stein am Rhein
 
 
ล่องแม่น้ำ  Rhein
 
 
 
 
 
Hotel   ริมน้ำ ... น้ำขึ้นมันไม่ท่วมหรือไงนี่  หรือว่า น้ำมันไม่ค่อยขึ้น
 
 
 
ตอนไปเป็นช่วง  Summer .... เลยมีให้เห็นตลอดสองฝั่ง ... ที่หลังจะเอา  lense zoom  สัก 400  มาด้วย ... :)
   
มาเป็น  Family
 

คู่แท้
 
คุณตาคุณยายน่ารักจัง  .... เอ้ย ...  ทั้งสามคน .... แบบปัจจุบันและอนาคต  .....    :)
 
กัปตัน ... กำลังโวย .... :(

เฮ้ย ... มีสะพานไม้ขวางแม่น้ำอยู่แล้วจะไปไงนี่ .... :(
   
เตี้ยแบบนี้ลอดได้ไง
 
ประกาศเตือน...ท่านผู้โดยสารชั้นบนอบพยบลงข้างล่างด่วน เราจะผ่าลอดใต้สะพานเข้าไป ไม่รับรองความปลอดภัย... :(
 
อย่างกะ  Robocop  เรือถูกออกแบบมาให้พับหลังคาห้อง กัปตันและผู้โดยสารชั้นบนได้อย่างรวดเร็วไม่เกิน 5  นาที

 
หุหุหุ .... เสร็จแล้วเป็นแบบนี้ ...เทห์ไปอีกแบบ.. ตอนลอดสะพานกัปตันก็ระวังหัวหน่อย .... :)
เจ้าสะพานนี่มันโชคดีที่เกิดใน Swiss อยู่บ้านตรูมันโดนลื้อไปทำฟืนเรียบร้อยแล้ว  บ้านเขาอนุรักษ์พวกเรือใหญ่ก็ต้องมาแก้ปัญหากันเอง ซึ่งก็ทำได้ดีมาก ..... :)

เมืองข้างๆสะพาน   บ้านเรามีวัดไปทุกที่ ยุโรปก็มีโบสถ์ไปทุกเมืองเหมือนกัน 
 
 
 


ป้อมปราการ   Munot

ในที่สุดก็ถึง  Schaffhausen....  ป้อม  Munot  ตั้งอยู่บนเนินข้างหน้าเห็นแต่ใกล
 
 
 
เรือกำลังเทียบท่า
 
   นับว่าคนในอดีตเลือกสร้างป้อมปราการบนจุดยุทธศาสตร์คุมการสัญจร ในแม่น้ำได้เยี่ยมมาก

 
จากท่าเรือเดินมาต้องคอยสังเกตุทางขึ้นอยู่ด้านขวามือ เป็นซอกเล็กกลืนกับบ้านคนไม่งั้นเดินเลย  ทางนี้เป็นทางขึ้นด้านหลัง  เราจะขึ้นด้านนี้แล้วไปลงฝังด้านหน้าแล้วไปต่อรถไปน้ำตก  Rhein Fall  เลยไม่งั้นต้องเดินอ้อมอีกรอบ
  
 

 เจ้านายผมไปโรดแล้ว

ทางที่พึ่งปีนขึ้นมา

ที่เห็นเขียวๆสองข้างบรรไดถูกชาวบ้านยึดไปปลูกองุ่นแล้ว 



 
  

ทางเข้า .... พวกชอบเข้าประตูหลัง .... :)
  
ของแท้ต้องมีป้ายรับประกัน .... อ่านไม่ออก ..... :)
 
 
 ภายในป้อม
 
 
  
 เข้าใจออกแบบแสงไฟ .... เจ้านายผมรีบไปแปลงกายเลย ... น่ากลัวฟุดๆ  ...  :( 

 ปีนขึ้นไปที่ดาดฟ้า

เอาไว้เป็นที่ชุมนุมของอัศวินโต๊ะกลม
 
 
 

ไม่ให้เสียชื่อหน้าต่างบนป้อม    Swiss   ก็ต้องมีดอกไม้ประดับไว้


มีปืนใหญ่ประจำการ

 ใหญ่เหมือนกัน ... นายใหญ่ผม
 
 แม่น้า  Rhein  ที่ล่องเรือมา 




 
 ลงป้อมอีกทางเพื่อต่อรถไป  Rhein Fall
 
มองลงไปข้างล่างของปราสาท .... กลายเป็นที่เลี้ยงกวางของคุณยายไปแล้ว
 
 ทางลงอีกด้าน

เดินมาเจอบ่อน้ำอีกละ
 
เหมือนเดิม .. หิวน้ำบ่อย 
 
สงสัยมาจาก  Africa  อัศวินคนนี้
 
 ลงจากป้อมมาต่อรถไป  Rhein Fall   กระเหรี่ยงสองคนอ่านป้ายรถเมล์อยู่เป็นนานทำไมมันไม่ มีชื่อ  Rhein  Fall  เลยวะ มันเป็นที่เที่ยวหลักนี่หว่า ..... ฝรั่งใจดีคงสงสารเดินมาถามยูจะไป   Rhein Fall  ใช่อะเปล่า ... โอ๋  Yes..... U ต้องไปลงป้าย  Neuhausen Zentrum   ไม่มีป้าย  Rhein Fall  หรอก .... เออใช่ตรูอ่านมาแล้วนี่หว่าดันลืมได้ไง เฟอะฟะจิงๆ ....รถเมล์ของเขามีจอมอนิเตอร์พร้อมเสียงมาตามสายคอย บอกเวลาจะถึงป้าย .... :(
 

ลงรถเมล์มาก็มีป้าย Rhein Fall ชี้ตลอดทาง เดิน 10 นาทีก็ถึง

 
Rhein Fall

Rhien Fall  ไม่เหมือนน้ำตกบ้านเราที่ไหลมาจากภูเขา แต่ Rhein Fall เกิดจากแม่น้ำที่ไหลมาถึงบริเวณนี้พื้นแม่น้ำเปลี่ยนระดับเหมือนกับเป็นหน้าผา  Stye  เดียวกับ  Niagara Fall  ที่อยู่ระหว่าง  America  กับ  Canada


 
จากรูปเราจะเดินเข้ามาทางด้านบนมุมซ้ายถนนสีขาวๆ  เข้ามาแล้วก็เจอน้ำตกเลย   เราจะเดินทวนเข็มนาฬิกาตามฝั่งแม่น้ำมาจนถึงท่าเรือ  แล้วข้ามเรือไปฝั่งตรงข้ามเบอร์ 2 สีแดงในรูป  ไปชมอีกฝั่งของน้ำตก  จากนั้นขึ้นไปชมปราสาท  เสร็จออกมาขึ้นรถไฟที่สถานีข้างปราสาทนั้นแหละกลับ Luzern  .... ส่วนบัตรเป็นบัตรเรือข้ามฝากกับเข้าชมปราสาท .... :)
 
 
เดินยังไม่ทันถึงก็ได้ยินเสียงน้ำตกดังก้องมาแต่ไกล  โผ่เขามาเห็น   View  แบบนี้แหละ .... มีรถไฟข้ามสะพานมาพอดี ... ตอนถ่ายไม่เห็นหรอกกลับมาบ้านค่อยเห็น ... :)  เจ้ารถไฟคันนี้แหละเดี๋ยวพาเรากลับ   Luzern
 
 















 
 
 


 
 
 
 







Zoom  ตัวปราสาทที่อยู่ฝังตรงข้าม ตอนข้ามไปฝั่งโน้น มีเจ้าแท่ง  Lift  ในรูปพาขึ้นไปเลย

เรือพานักท่องเที่ยวไปส่งที่เจ้าแท่งเกาะกลางน้ำ  เราแค่ข้ามฝากไม่ได้แวะไปเกาะกลาง ....  :)
 
 
 
 Zoom  ความแรงของน้ำทั้งสองด้านของเจ้าแท่งเกาะกลางน้ำ  โดนเซาะตลอด 24 ชม  จะอยู่ได้อีกกี่ร้อยปีหว่า ...  เจ้า  Twelve Apostles  หนึ่งในสิบมหัศจรรย์ของโลกที่  Australia  เจอน้ำทะเลซัดทุกวัน  บางแท่งก็ล้มไปแล้วอะ .....   คิดมากไปอะเปล่าเนี้ย ........  :)
 
 
เดินลัดเลาะมาเรื่อยๆ
    
 
 
 
 

 




 


เห็นคุณแม่ลูก  4  ผลัดกันลงมากด  Shutter  เลยทำตัวเป็นพลเมืองดีให้เขาได้รูป  Family  ครบๆหน่อย ....  :)

นั่งเรือข้ามไปฝั่งตรงข้าม

 มีกระเหรียงสองคนเอง ... อีกคนถ่ายรูปอยู่ .... :)
 
ความแรงของน้ำทำให้เกิดไอน้ำฟุ้งกระจายไปทั่ว  พอโดนแสงแแดดก็เป็นรุ้งตัวอ้วน  วันนี้ตัวไม่ค่อยอ้วนเลย

Rhein Fall   ชอบรูปนี้ที่สุด ถ่ายจากฝั่งประสาท  เห็นความเชี่ยวและแรงของน้ำแบบไม่ต้องบรรยาย

ภาพวาดตั้งแสดงในปราสาท ใครวาดก็ไม่รู้ไม่ทันดู


โมเดล  Rhein Fall


ถ่ายจากห้องในปราสาท


ไม่ได้เดินดูที่ปราสาทเท่าไหร่ไม่คุ้มค่าตั๋วเลยเพราะต้องรีบไปขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้าย ที่นี่เป็นสถานีเล็กๆเลยหกโมงกว่าๆก็ไม่มีรถไฟจอดรับแล้ว คนขึ้นคงน้อยส่วนใหญ่คงเป็นนักท่องเที่ยว  ถ้าพลาดเราต้องนั่งเรือข้ามฝากย้อนกลับ ไปต่อรถเมล์ แล้วรถไฟ ย้อนทางที่มาเลย  ... เสียดายเวลานั่งรอเรือที่  Stein am Rhein  ตั้งชั่งโมงครึ่ง  ไม่งั้นคงเก็บได้หมด  ไม่เป็นไรแค่นี้ก็หนักแย่แล้ว .... :)

เรียกว่าเพิงหรือสถานีดี ... มิน่าถึงจอดบางขบวนเท่านั้น

มาแล้วเจ้าคันนี้แหละพาเรากลับ  Luzern  ..... Bye Bye Rhein Fall ......  :)
 
 
 
 
Trip   วันนี้เดินตลุยทั้งวันเลย  คืนนี้ได้หลับสบาย .... พรุ่งนี้เราจะย้ายฐานออกจาก  Luzern  ไป   Bern  เมืองหลวงของ  Swiss กัน .......  :)